เลือกดอกไม้สำหรับทำดอกไม้แห้งอย่างไร สำหรับคนที่อยากทำดอกไม้เองที่บ้าน ควรเลือกดอกที่ยังไม่บานเต็มที่ แนะนำให้ใช้เป็นดอกตูมหรือใกล้บานได้ เพราะระหว่างขั้นตอนทำให้แห้งนั้น เจ้าดอกไม้จะบานออกมาเล็กน้อย ทำให้ถ้าใช้ดอกไม้บานแล้วกลีบอาจหลุดร่วงออกมาได้ง่าย อย่างไรก็ตามการทำดอกไม้แห้งแต่ละครั้ง สภาพอากาศในบ้านต้องเอื้ออำนวยพอสมควร หากบริเวณดังกล่าวมีความชื้นสูงเกินไป อาจเกิดเชื้อรากับดอกไม้ได้ง่ายๆ รวมถึงแสงแดดต้องไม่แรงจัด เพราะจะทำให้ดอกไม้เฉา แห้งเหี่ยว ไม่สวยงาม
ซึ่งดอกไม้ที่ง่ายต่อการทำเป็นดอกไม้แห้ง คือ ดอกไม้ที่มีปริมาณน้ำต่ำและสีค่อนข้างสวยสด เช่น ดอกกุหลาบ ไฮเดรนเยีย ยิปโซ และสแตติส ส่วนดอกไม้ที่แนะนำให้เลี่ยง คือ ดอกที่มีน้ำมาก เพราะจะดูดซับน้ำเก็บไว้ในดอกสูง ทำให้แห้งได้ยาก เช่น ดอกทานตะวัน ทิวลิป ลิลลี่ เบญจมาศ และซากุระ
วิธีนี้ค่อนข้างง่าย อุปกรณ์ไม่เยอะ ทำได้โดยห้อยดอกไม้ลงมาจากที่สูง โดยยึดกับเชือกหรือตัวหนีบไว้ ข้อดีคือรูปร่างของดอกไม้จะมีความสวยงามและเป็นธรรมชาติ ส่วนข้อเสียคือสีของเค้าจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากช่วงนั้นมีความชื้นสูง สีดอกไม้ก็จะออกมาค่อนข้างหมองคล้ำ แต่บางคนโดยเฉพาะเหล่าแม่บ้านก็นิยมใช้วิธีแขวนดอกไม้กับพืชสมุนไพรเช่นกัน เป็นพร็อพวินเทจตกแต่งในครัวแถมยังนำมาปรุงอาหารได้อีกด้วย ดูเก๋ไปอีกแบบ
วิธีทำ 1.เลือกดอกไม้สำหรับใช้แขวน แนะนำว่าให้แขวนดอกไม้ทีละดอก 2.หากใช้ดอกไม้ที่อยู่ในแจกัน ให้ตัดส่วนที่แช่น้ำออก และแต่งใบก่อนนำไปแขวน 3.จากนั้นมัดดอกไม้ด้วยเชือกลินิน และแขวนไว้บริเวณที่แสงแดดส่องไม่ถึงโดยตรง 4.ดอกไม้จะแห้งในเวลาประมาณ 1 ถึง 2 สัปดาห์
ต่อมาคือการทำให้แห้งโดยใช้น้ำ โดยตัดส่วนใบ แต่งก้านดอกไม้และนำไปแช่ในน้ำ เหลือส่วนดอกไว้ เป็นอีกวิธีที่ปล่อยให้ดอกไม้แห้งแบบธรรมชาติ มักนิยมทำกับดอกกุหลาบหรือก้านใบไม้ต่างๆ ข้อดีคือระหว่างที่ดอกไม้กำลังค่อยๆ แห้งในขวดแก้วหรือแจกัน เราจะได้ชมความสวยงามของเค้าไปด้วย แต่ข้อเสียคือตัวดอกไม้จะห้อยลงมาง่าย ต้องหาที่ดามไว้ให้รับน้ำหนักได้
วิธีทำ 1.เทน้ำในแจกันประมาณ 1-5 ซม. 2.วางแจกันไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก 3.ปักดอกไม้สดหรือก้านใบไม้สดที่เราเตรียมไว้ลงไป 4.รอให้น้ำระเหยออก โดยไม่ต้องเติมน้ำเพิ่ม 5.รอเวลาให้ดอกไม้แห้งพร้อมๆ กัน 1-2 สัปดาห์
ซิลิก้าเจล (Silica Gel) เป็นสารดูดความชื้นที่ช่วยให้ดอกไม้แห้งของเรานั้นมีสีสด และแห้งได้รวดเร็วขึ้น ขั้นตอนนี้มักใช้ส่วนดอกในการ DIY โดยตัดก้านของเค้าให้สั้น จึงไม่เหมาะต่อการนำไปตกแต่งเป็นช่อหรือใส่แจกันประดับ ข้อดีของวิธีทำดอกไม้แห้งด้วยซิลิก้าเจลคือสามารถคงลักษณะของดอกไม้เดิมไว้ได้ กลีบสมบูรณ์กว่าวิธี
วิธีทำ 1.ตัดดอกไม้โดยเว้นระยะห่างจากกิ่งประมาณ 2 เซนติเมตร 2.สวมถุงมือยางระหว่างทำ กระจายซิลิกาเจลประมาณ 1 เซนติเมตรในภาชนะปิด เช่น ขวดแก้วหรือโหลพลาสติก 3.จากนั้นจึงวางดอกไม้ลงไป 4.ค่อยๆ โรยซิลิก้าเจลที่เหลือลงบนดอกไม้ โดยใช้ช้อนเกลี่ยๆ ให้เข้ากัน ระวังกลีบช้ำ 5.ปิดฝาภาชนะให้สนิท แล้วทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์
วิธีทำดอกไม้แห้งขั้นพื้นฐาน ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้ และเราคงคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ที่นำดอกไม้หรือใบไม้ชนิดต่างๆ มาสะสมทับในหนังสือ ข้อแนะนำคือไม่ควรใช้ดอกไม้ที่มีน้ำในดอกเยอะเกินไป เพราะระหว่างทับจะทำให้กระดาษเสีย ดีไม่ดีอาจขึ้นราได้นะ อีกข้อจำกัดหนึ่งของการทับดอกไม้แห้งลงบนหนังสือคือใช้ดอกไม้ใหญ่ๆ ไม่ได้เพราะพื้นที่น้อยเกินไป แต่การทับดอกไม้ก็มีข้อดี เช่น นำไปประดับตกแต่งการ์ดได้ สีสันดอกไม้น่ารัก และเก็บรักษาได้
วิธีทำ 1.เลือกดอกไม้ใบไม้ ที่ไม่อิ่มน้ำ (ดอกไม้ใบไม้ที่ไม่กักเก็บน้ำไว้) 2.เตรียมหนังสือ แนะนำเป็นเล่มหนาๆ มาใช้ในการทับดอกไม้ 3.นำดอกไม้ที่เตรียมไว้แล้ววางลงไป พยายามอย่าใช้จำนวนเยอะเกิน 4.พับปิดหนังสือให้สนิท และรอเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
ก็จบกันไปแล้วสำหรับการทำดอกไม้แห้งที่บ้านด้วยตนเอง ใครที่สนใจวิธีการทำดอกไม้แห้งอยู่ละก็ อย่าลืมนำเทคนิคที่เราแชร์ทั้ง 4 แบบไปใช้ดูนะคะ ชอบสไตล์ไหนลองทำสไตล์นั้นดูได้เลย หรือหากใครจะลองหลายแบบก็ไม่ว่ากัน เมื่อทำเสร็จแล้วเราก็สามารถเก็บไว้เป็นความทรงจำ นำไปตกแต่งประดับห้องต่างๆ หรือมอบเป็นของขวัญสุดน่ารักแก่คนพิเศษก็ได้