ข้าวดอกราย ข้าวคลุกเรียบง่ายอย่างนักสู้แห่งจะนะ

    uat-tier-1

    เผยแพร่ 06 มีนาคม 2567

    ชวนลงใต้ไปสงขลา กินข้าวดอกรายฝีมือ ก๊ะรี - นูรี โต๊ะกาหวี นักสู้แห่งตำบลสะกอม อำเภอจะนะ

    ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ฉันมีโอกาสได้ล่องใต้ไปเยือน อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลามาค่ะ

     

     

     

     

    ต้องบอกก่อนว่า ส่วนตัวแล้วฉันแทบไม่เคยมีหมุดหมายใดๆ ที่ว่าจะต้องไปเยือนจะนะเลย แม้ว่าจะติดตามข่าวคราวการต่อสู้ของพี่น้องจะนะอยู่เรื่อยๆ จำได้เพียงว่าเคยได้กินอาหารจากจะนะอยู่ครั้งหนึ่งในม็อบไหนสักม็อบช่วง 2-3 ปีก่อน และถูกใจในความสดใหม่ของวัตถุดิบมาก ครั้งนี้เมื่อพี่วว. (วรรณแวว และ แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์) บอสแห่ง KRUA.CO เอ่ยปากชวนให้ติดตามไปกับทริปจะนะของรายการ #ววแอดไวซ์เด้อ ฉันที่ไม่เคยมีหมุดหมายใดๆ ก็กลับมีจุดประสงค์ในใจขึ้นมาเสียอย่างนั้น

     

     

     

     

    ไปค่ะ เราเก็บกระเป๋าไปตามหาของกินอร่อยๆ ที่จะนะกันดีกว่า

    แกะปูกับก๊ะรี

    เช้าตรู่วันนั้นเราแลนดิ้งที่สนามบินหาดใหญ่ ขับรถต่อไปอีกพักหนึ่งกว่าจะถึงบ้านของ ก๊ะรี – นูรี โต๊ะกาหวี เจ้าบ้าน ณ ตำบลสะกอม อำเภอจะนะ ผู้รับหน้าที่หุงหาอาหารเลี้ยงทีม KRUA.CO ตาดำๆ ที่หอบหิ้วความอยากอาหารมาจากกรุงเทพฯ

     

     

     

     

    ‘ก๊ะ’ คำนี้หมายถึงพี่สาว ชาวไทยมุสลิมในหลายพื้นที่เรียกหญิงมุสลิมด้วยคำว่าก๊ะเพื่อเป็นการให้เกียรติ เราจึงเรียกก๊ะรีว่าก๊ะรีด้วยเช่นกัน

     

     

     

     

    “ปูเข้าๆ” ใครสักคนพยายามตะโกนบอกเราว่าก๊ะรีกำลังติดธุระสำคัญอยู่ ทันทีที่เราถึงบ้านก๊ะรี ก๊ะรีจึงขี่มอเตอร์ไซค์สวนกับเรา ออกจากบ้านไปเสียอย่างนั้น

     

     

     

     

    “ก๊ะบอกว่าปูเข้า ก๊ะจะไปแกะปูก่อน”
    “ขอตามไปได้ไหมคะ”
    “ได้ๆ มาเลย”

     

     

     

     

    รถของเราขับตามมอเตอร์ไซค์ก๊ะรีที่เห็นแค่หลังไวๆ ลัดเลาะไปตามถนนเล็กๆ ในหมู่บ้าน กว่าจะตามทันก๊ะรีก็นั่งประจำที่และแกะปูออกจากอวนได้เกือบครึ่งตะกร้า

    “ที่นี่ออกเรือได้ทั้งปีเลย แต่ละฤดูจะได้ของไม่เหมือนกัน แล้วแต่ช่วง ปลาทู ปลาจาละเม็ด กุ้งแชบ๊วย มาคนละฤดู แล้วเราก็ต้องใช้อวนคนละชนิดกัน วันนี้ถือว่าปูเยอะกว่าฤดูปกติ ตอนนี้ถือว่าเป็น 2-3 เท่าของฤดูปกติ เพราะพอคลื่นลมแรง ปูมันจะขึ้นมาบนผิวทราย แล้วมาติดอวนเยอะกว่าฤดูที่ไม่มีคลื่นลม” ก๊ะรีแกะปูไป ก็เริ่มบรรยายวิชาประมง 101 ให้เราฟังไปด้วย

     

     

     

     

    “ที่ติดมากับอวน พวกปะการัง เปลือกหอย หรือขยะ เขาเรียกว่าซ๊อกแซ๊ก เราก็ต้องแกะออกก่อน แล้วก็เอาไปตั้งใหม่ได้ เนื้ออวนเราใช้ประมาณ 2-3 เดือนถึงจะเปลี่ยนใหม่ ส่วนเชือกกับตะกั่วใช้ได้เป็นสิบๆ ปีเลย”

     

     

     

     

    ในขณะที่พี่วว. กำลังตื่นเต้นกับวิธีทำประมงและเรื่องภาษาสะกอมที่มีศัพท์แสงไม่เหมือนภาษาใต้ถิ่นอื่น ฉันกลับตื่นเต้นที่เห็นกั้งตัวเท่าฝ่ามือติดอวนมาเพียบ แถมก๊ะรียังสปอยล์เมนูประจำวันให้ฟังอีกต่างหาก

     

     

     

     

    “วันนี้มีข้าวดอกราย อาหารพื้นถิ่นของคนตำบลสะกอม ไม่มีที่ไหน มีที่ตำบลสะกอมที่เดียว มีมานานแล้ว คนที่เขามาเที่ยว เราก็จะสอนเขาทำ พอเขากลับไปทำเขาก็จะบอกว่าไม่เหมือนที่คนที่นี่ทำ ถ้าใครมาที่นี่แล้วไม่ได้กินข้าวดอกรายถือว่ามาไม่ถึงนะ ต้องกลับมาใหม่”

    ก๊ะรีเป็นคนยิ้มง่าย เราเจอกันได้เพียงเดี๋ยวเดียวก๊ะรีก็แจกยิ้มให้เกลื่อน มือแกะปูไปปากก็เล่าเรื่องโน้นนี้ไปไม่หยุดเหมือนเคยรู้จักกันมานาน

     

     

     

     

    “ตั้งแต่เราอยู่ในวิถีการคัดค้านการพัฒนาของรัฐที่ทำลายวิถีชุมชนนี่แหละ ก็จะมีน้องๆ นักศึกษาหรือคนที่อยากเรียนรู้ลงมาในหมู่บ้านเยอะขึ้น เพราะบางคนเขาอยากรู้ว่าสาเหตุอะไรเราถึงได้ลุกขึ้นมาปกป้อง เราก็เลยต้องทำข้าวดอกรายรับแขกอยู่เรื่อยๆ เพราะว่ามันเป็นเหมือนเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของคนตำบลสะกอม”

    เครดิต https://krua.co/food_story/khao-dok-rai-chana-journey

    ความคิดเห็น